|
|
โครงการประกวดภาพถ่าย อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร ครั้งที่ ๔
๑. หลักการและเหตุผลมูลนิธิอุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ริเริ่มดำเนินโครงการประกวดภาพถ่าย อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร ครั้งแรก ตั้งแต่ปี ๒๕๕๔ โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานถ้วยรางวัลถาวรสำหรับโครงการประกวดภาพถ่าย อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร ซึ่งการจัดโครงการประกวดภาพถ่าย อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร ส่งผลให้อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังกระตุ้นให้ประชาชนเกิดความตระหนักในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งยังได้ภาพความงดงามในมุมต่างๆ ที่สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ๒. วัตถุประสงค์ของการประกวดภาพถ่าย๒.๑ เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการปกป้อง ดูแล และรักษาสิ่งแวดล้อม ๒.๒ เพื่อเสริมสร้างจิตสำนึก ให้เกิดความรัก ความรู้สึกหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประโยชน์แก่อนุชนรุ่นหลังสืบไป ๒.๓ เพื่อนำภาพถ่ายไปใช้ประโยชน์ในการประชาสัมพันธ์อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายยิ่งขึ้น รวมทั้งเผยแพร่ภาพความงดงามของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนความรัก ความรู้สึกหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติ อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติต่อไป ๓. แนวคิด (Theme) ของการประกวดภาพถ่ายภาพของภูเขา ป่าไม้ หรือชายทะเล ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความงดงามของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภายในบริเวณพื้นที่อ่าวไทยตอนบน ได้แก่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง จังหวัดจันทบุรี และจังหวัดตราด ๔. ผู้มีสิทธิ์ส่งภาพถ่ายเข้าประกวดประชาชนทั่วไป (หมายเหตุ: คนไทยและชาวต่างชาติที่มีถิ่นพำนักในประเทศไทย) ๕. หลักฐานประกอบการส่งภาพถ่ายเข้าประกวด๕.๑ ใบสมัคร ๕.๒ สำเนาบัตรประชาชน ๖. ประเภทการประกวดแบ่งเป็น ๒ ประเภท ได้แก่ ๖.๑ ประเภทภาพเปรียบเทียบ (ภาพอดีตและภาพปัจจุบัน) (๑) แนวคิด เป็นภาพที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมา โดยมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับภูเขา ป่าไม้ ชายทะเล เป็นองค์ประกอบของภาพอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งหมด ที่สื่อให้เห็นถึงการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วิถีชีวิตตามธรรมชาติ การประกอบอาชีพ หรืออื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ภายในบริเวณพื้นที่อ่าวไทยตอนบน ได้แก่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง จังหวัดจันทบุรี และจังหวัดตราด (๒) ชนิดของภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวด ๑) ภาพอดีต เป็นภาพขาวดำหรือภาพสี ขนาด ๖ x ๔ นิ้ว โดยต้องเขียนหรือพิมพ์รายละเอียดเนื้อหาบรรยายประกอบ ที่บอกเล่าเรืองราวความเป็นมาของภาพที่ส่งเข้าประกวด ความยาวประมาณ ๕ – ๗ บรรทัด (ตามแบบฟอร์มที่กำหนด พร้อมทั้งกรอกรายละเอียดข้อมูลของภาพให้ครบทุกช่องด้วยลายมือบรรจงหรือพิมพ์) ๒) ภาพปัจจุบัน เป็นภาพสี ขนาด ๑๒ x ๑๘ นิ้ว ติดภาพลงบนแผ่นฟิวเจอร์บอร์ดสีเทา เว้นขอบ ๒ นิ้ว ด้านหลังกรุณาติดแบบฟอร์มการส่งภาพเข้าประกวด (ดาวน์โหลดได้ทาง www.sirindhornpark.or.th) โดยกรอกรายละเอียดให้ครบทุกช่องด้วยลายมือบรรจงหรือพิมพ์ ๓) ต้องส่งไฟล์ภาพต้นฉบับ (เฉพาะภาพปัจจุบัน) บันทึกลงแผ่นซีดี ความละเอียดไม่น้อยกว่า ๑๐ ล้านพิกเซล (10 Megapixel) ไฟล์ในแบบมาตรฐาน JPEG คุณภาพสูงสุด ไม่รับไฟล์ที่เป็นสกุลอื่น ๖.๒ ประเภทภาพภูมิทัศน์ (๑) แนวคิด เป็นภาพที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับภูเขา ป่าไม้ ชายทะเล เป็นองค์ประกอบของภาพอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งหมด ที่สื่อให้เห็นถึงการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วิถีชีวิตตามธรรมชาติ การประกอบอาชีพ หรืออื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ภายในบริเวณพื้นที่อ่าวไทยตอนบน ได้แก่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง จังหวัดจันทบุรี และจังหวัดตราด (๒) ชนิดของภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวด ๑) ภาพสี ขนาด ๑๒ x ๑๘ นิ้ว ติดภาพลงบนแผ่นฟิวเจอร์บอร์ดสีเทา เว้นขอบ ๒ นิ้ว ด้านหลังกรุณาติดแบบฟอร์มการส่งภาพเข้าประกวด (ดาวน์โหลดได้ทาง www.sirindhornpark.or.th) โดยกรอกรายละเอียดให้ครบทุกช่องด้วยลายมือบรรจงหรือพิมพ์ ๒) ต้องส่งไฟล์ภาพต้นฉบับ บันทึกลงแผ่นซีดี ความละเอียดไม่น้อยกว่า ๑๐ ล้านพิกเซล (10 Megapixel) ไฟล์ในแบบมาตรฐาน JPEG คุณภาพสูงสุด ไม่รับไฟล์ที่เป็นสกุลอื่น ๗. รางวัลการประกวดมีรางวัลดังต่อไปนี้ ๗.๑ รางวัลยอดเยี่ยม ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ๗.๒ รางวัลประเภทภาพเปรียบเทียบ (ภาพอดีต และภาพปัจจุบัน) (๑) รางวัลชนะเลิศอันดับ ๑ จำนวน ๑ รางวัล รางวัลละ ๒๕,๐๐๐ บาท พร้อมโล่เกียรติยศ (๒) รางวัลชนะเลิศอันดับ ๒ จำนวน ๑ รางวัล รางวัลละ ๒๐,๐๐๐ บาท พร้อมโล่เกียรติยศ (๓) รางวัลชนะเลิศอันดับ ๓ จำนวน ๑ รางวัล รางวัลละ ๑๕,๐๐๐ บาท พร้อมโล่เกียรติยศ (๔) รางวัลชมเชย จำนวน ๑๐ รางวัล รางวัลละ ๓,๐๐๐ บาท พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ ๗.๓ รางวัลประเภทภาพภูมิทัศน์ (๑) รางวัลชนะเลิศอันดับ ๑ จำนวน ๑ รางวัล รางวัลละ ๒๕,๐๐๐ บาท พร้อมโล่เกียรติยศ (๒) รางวัลชนะเลิศอันดับ ๒ จำนวน ๑ รางวัล รางวัลละ ๒๐,๐๐๐ บาท พร้อมโล่เกียรติยศ (๓) รางวัลชนะเลิศอันดับ ๓ จำนวน ๑ รางวัล รางวัลละ ๑๕,๐๐๐ บาท พร้อมโล่เกียรติยศ (๔) รางวัลชมเชย จำนวน ๑๐ รางวัล รางวัลละ ๓,๐๐๐ บาท พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ ๘. กติกาและเงื่อนไข๘.๑ ภาพที่ส่งเข้าประกวดต้องเป็นภาพถ่ายที่สอดคล้องแนวคิด (Theme) ของการประกวดครั้งนี้ ๘.๒ ภาพถ่ายจะต้องดูเป็นธรรมชาติ ไม่มีการตกแต่งภาพเพิ่มเติม หรือตัดต่อที่เกินความเป็นจริงด้านเทคนิคใดๆ ๘.๓ ภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวดทุกประเภท (ไม่รวมภาพในอดีต) อาจเป็นภาพที่ผู้ส่งเข้าประกวดเคยถ่ายไว้แล้ว แต่ต้องไม่เกิน ๓ ปี จนถึงวันที่ประกาศรับผลงาน และจะต้องไม่เป็นภาพที่เคยได้รับรางวัลใดๆ มาก่อน ๘.๔ ผู้ส่งภาพเข้าประกวดจะต้องถ่ายภาพด้วยตัวเอง ห้ามนำผลงานผู้อื่นหรืออ้างชื่อผู้อื่นในการส่งภาพเข้าประกวด ๘.๕ ผู้ส่งภาพเข้าประกวด ๑ คน มีสิทธิ์ส่งได้ไม่เกิน ๕ ภาพ ต่อ ๑ ประเภทการประกวด และมีสิทธิ์ได้รับรางวัลสูงสุด รางวัลเดียวเท่านั้น ๘.๖ ผู้ส่งภาพเข้าประกวด ประเภทภาพเปรียบเทียบ (ภาพอดีตและภาพปัจจุบัน) จะต้องแนบภาพในอดีต ซึ่งอาจเป็นภาพที่ได้มาจากแหล่งข้อมูลต่างๆ เช่น ชาวบ้านในพื้นที่ หรือเป็นภาพที่เจ้าของภาพได้เคยถ่ายไว้ในอดีต เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของสภาพพื้นที่เมื่อนำมา เปรียบเทียบกับภาพที่ส่งเข้าประกวด (ภาพปัจจุบัน) ๘.๗ ผู้ส่งภาพเข้าประกวด ต้องระบุ ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล์ที่ชัดเจน และระบุวัน เวลา สถานที่ ของภาพที่ส่งเข้าประกวดตามแบบฟอร์มที่กำหนดให้สมบูรณ์ ด้วยลายมือบรรจงหรือพิมพ์ ๘.๘ ผู้ส่งภาพเข้าประกวด จะต้องไม่นำภาพที่อยู่ระหว่างรอการตัดสิน ไปใช้ส่งเข้าประกวดในงานอื่น ๘.๙ ภาพถ่าย และไฟล์ต้นฉบับ ที่ส่งเข้าประกวดแล้ว ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของ มอนส ผู้ส่งภาพเข้าประกวด จึงไม่อาจเรียกคืนภาพถ่าย และไฟล์ต้นฉบับดังกล่าวได้ ๘.๑๐ ผู้ส่งภาพเข้าประกวดยินยอมให้ มอนส สามารถนำผลงานทุกภาพออกเผยแพร่ หรือใช้ประโยชน์อื่นๆ ในกิจกรรมของ มอนส ได้ โดยไม่ต้องขออนุญาตและจ่ายค่าตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้นแก่เจ้าของผลงาน อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่เจ้าของผลงานภาพถ่าย มอนส จะใส่ชื่อเจ้าของผลงานภาพถ่ายที่นำไปใช้ประโยชน์ ตามความเหมาะสมต่อไป ๘.๑๑ การตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด ผู้ส่งภาพเข้าประกวดไม่มีสิทธิ์อุทธรณ์ใดๆ ทั้งสิ้น ๘.๑๒ เจ้าหน้าที่ และลูกจ้างของ มอนส และคณะกรรมการตัดสิน ไม่มีสิทธิ์ส่งภาพเข้าประกวด ๘.๑๓ ผู้ที่ได้รับเงินรางวัลจะต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย เป็นจำนวนร้อยละ ๕ ของเงินรางวัลที่ได้รับ ๙. ระยะเวลาการส่งภาพเข้าประกวดสามารถส่งภาพเข้าประกวดได้ตั้งแต่วันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๖๑ – วันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ในวันและเวลาทำการ ทั้งนี้ หากส่งทางไปรษณีย์ จะถือวันที่ประทับตราไปรษณีย์เป็นสำคัญ ๑๐. วิธีการส่งภาพเข้าประกวด๑๐.๑ ส่งด้วยตัวเอง ได้ที่ อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร เลขที่ ๑๒๘๑ ค่ายพระรามหก ตำบลชะอำ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ๗๖๑๒๐ ทุกวัน ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันอาทิตย์ ระหว่างเวลา ๐๙.๐๐ น. – ๑๗.๐๐ น. ๑๐.๒ ส่งทางไปรษณีย์ โดยวงเล็บมุมซองว่า “โครงการประกวดภาพถ่าย” ตามที่อยู่ข้างต้น ๑๑. การประกาศผลการตัดสินมอนส จะประกาศผลการตัดสินในเดือนมิถุนายน ๒๕๖๑ โดยสามารถตรวจสอบผลการตัดสินได้ที่ทางเว็บไซต์ (www.sirindhornpark.or.th) และ Facebook (www.facebook.com/siepchaam) ของอุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร และจะแจ้งผลให้ผู้ที่ได้รับรางวัลทุกท่านทราบทางโทรศัพท์ และทางไปรษณีย์ ๑๒. พิธีมอบรางวัลกำหนดจัดพิธีมอบรางวัลและจัดแสดงนิทรรศการภาพถ่ายของผู้ได้รับรางวัล ในเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๑ ๑๓. ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมหรือดาวน์โหลดใบสมัครโทรศัพท์ : ๐๓๒-๕๐๘-๓๕๒, ๐๓๒-๕๐๘-๔๐๕-๙ ต่อ ๓๐๑, ๕๐๒ Email : siep@sirindhornpark.or.th Facebook : www.facebook.com/siepchaam ดาวน์โหลดใบสมัคร
|